
คุณคงเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี เมื่อกลับจากวันหยุดพักผ่อนและทริปสนุกสนานมีความสุข ทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าความสุขนี้คงตราตรึงอยู่กับคุณเป็นเวลาหลายวัน หรือแม้แต่หลายสัปดาห์ จากนั้น เมื่อคุณกลับถึงบ้านและกลับไปทำงาน คุณกลับรู้สึกเครียดและถูกบีบคั้นด้วยเวลาตั้งแต่วันแรกที่คุณกลับไป และรู้สึกราวกับว่าวันหยุดสุดแสนมหัศจรรย์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น! ดังนั้นคำถามคือ ควรจะทำอย่างไรเพื่อให้ความรู้สึกดีๆ จากช่วงเวลาวันหยุดยังคงอยู่เป็นเวลานาน แน่นอนว่าต้องมีหนทางแน่ๆ ลองมาดูผลการวิจัยและศึกษาจากประเทศเนเธอร์แลนด์กัน
จากการศึกษาในวารสาร Applied Research in Quality of Life
ซึ่งได้ทำการติดตามระดับความสุขของคนที่ไปเที่ยววันหยุดทั้งหมด 974 คน
และอีก 556 คนที่ไม่ได้ไปเที่ยว ตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์
ผู้ที่มีวันหยุดพักผ่อนได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับของความสุขของพวกเขา ทั้ง
ก่อน, ระหว่าง และ หลังกลับจากท่องเที่ยว

เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ไปเที่ยววันหยุด
ระดับความสุขของผู้ที่ไปเที่ยวสูงกว่ามากในช่วงเวลาก่อนไปเที่ยว
(แสดงให้เห็นว่าพวกเขาตั้งตาคอยและคาดหวังทริปในวันหยุดแสนวิเศษ)
และยังคงมีความสุขมากในระหว่างการเที่ยวพักผ่อน
แต่หลังกลับจากไปเที่ยวระดับความสุขกลับลดลงจนเท่ากับผู้ที่ไม่ได้ไปเที่ยว
อย่างน่าใจหาย ด้วยข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว คือ
กลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ให้ข้อมูลว่าพวกเขามีวันหยุดที่ "ผ่อนคลายมากๆ"
ยังคงมีความสุขมากๆ หลังกลับจากไปเที่ยวเป็นเวลาสองสัปดาห์โดยเฉลี่ย
ยิ่งไปกว่านั้นระดับความสุขของพวกเขายังคงดีอยู่เป็นระยะเวลาถึง 8
สัปดาห์เต็ม

การค้นพบที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ
ระยะเวลาของวันหยุดไม่มีผลต่อระดับความสุข ซึ่งการศึกษาพบว่า
"ตราบใดที่ทริปนั้นทำให้คุณมีโอกาสในการผ่อนคลายความเครียดและพักผ่อนมากพอ
ก็จะไม่มีความแตกต่างของระดับความสุขระหว่างคนที่ไปเที่ยวหลายวัน
กับคนที่ไปเที่ยวเพียงไม่กี่วัน"
การศึกษาชี้ให้เห็นกลยุทธ์ที่ดีในการวางแผนวันหยุดของคุณ
ซึ่งสามารถช่วยให้คุณมีความสุขอยู่ได้เป็นระยะเวลายาวนานแม้กลับจากไปเที่ยว
แล้ว อย่างแรก คุณควรวางแผนวันหยุดที่ผ่อนคลายมากๆ อย่างที่สองคือ
คุณควรวางแผนสำหรับทริปสั้นๆ หลายๆ ครั้งในแต่ละปี
ดีกว่าวางแผนสำหรับทริปที่ยาวหลายวันเพียงครั้งเดียว หากทำเช่นนี้แล้ว
จะช่วยให้คุณมีความสุขได้มากกว่า

สำหรับประเด็นสำคัญที่ว่า อะไรคือวันหยุดที่ "ผ่อนคลายมากๆ" จิตแพทย์
Jeffrey Rossman บอกไว้ว่า อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แตกต่างกันไป คนๆ
หนึ่งอาจคิดว่าการได้นอนเอนกายบนชายหาดหลายๆ วันเป็นสิ่งที่ผ่อนคลายที่สุด
ในขณะเดียวกัน อีกคนหนึ่งอาจรู้สึกว่านั่นทำให้เขาทรมานมากกว่า
ระดับความผ่อนคลายเป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะรู้สึกอย่างไรต่อประสบการณ์
นั้นๆ
จิตแพทย์ Rossman ยังคงแนะนำต่อไปว่า กลยุทธ์ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุขได้ยาวนานขึ้นหลังกลับจากไปเที่ยว

1. พูดคุยเกี่ยวกับวันหยุดของคุณ เก็บรักษาช่วงเวลาดีๆ
ที่ทำให้คุณมีความสุข ถ่ายรูประหว่างไปเที่ยว
จากนั้นแชร์รูปถ่ายเหล่านั้นกับผู้อื่นและบอกเล่าถึงประสบการณ์ดีๆ
ที่คุณได้รับจากการไปเที่ยวครั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้
ให้พูดคุยถึงเรื่องทริปเหล่านั้นกับคนที่คุณไปเที่ยวด้วย

2. ขอบคุณคนที่ช่วยให้เวลาเหล่านั้นเป็นเวลาพิเศษ
ถ้าใครที่โรงแรมหรือสถานที่ที่คุณไปเที่ยว
ให้ความช่วยเหลือและเป็นมิตรกับคุณ คุณอาจส่งโน้ตเล็กๆ เพื่อขอบคุณเขา
ถ้าคุณมีเพื่อนใหม่และสัญญากับพวกเขาว่าจะติดต่อ ก็ให้โทรหาหรืออีเมล์
(ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำให้คุณระลึกถึงช่วงเวลาอันมีความสุขได้อีก)

3. เก็บรักษาสิ่งดีๆ ไว้ ถ้าคุณเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ระหว่างช่วงวันหยุด
ให้นำมาใช้ในชีวิตของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าคุณไปเรียนเทนนิสมา
เมื่อกลับถึงบ้านแล้วให้ใช้ทักษะที่คุณเรียนมาในคอร์ทเทนนิสใกล้บ้านให้เร็ว
ที่สุด ให้ทำในลักษณะเดียวกัน ถ้าคุณไปเรียนศิลปะ,โยคะ หรือไปดูนก
วันหยุดพักผ่อนที่คุณได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือสิ่งใหม่ๆ
จะสร้างความสุขระยะยาวได้มากกว่า
ตราบใดที่คุณพยายามนำมันมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย

“เคล็ดลับเลือกกางเกงใส่อยู่บ้าน” (Woman's Story)
วัน หยุดพักผ่อน มีเวลาได้อยู่บ้านทั้งที แบบนี้ก็ต้องมาเลือกกางเกงสำหรับใส่อยู่บ้านกันหน่อยแล้วล่ะคะ แต่จะเลือกกางเกงแบบไหนให้ใส่สบาย ๆ ไปกับวันสบาย ๆ ไปติดตามกันค่ะ...
กางเกงอยู่บ้านที่มีขอบยางยืด มีข้อดีคือ สะดวก จะใส่จะถอดง่าย ไม่ต้องมานั่งกลัดกระดุม ปิดกระดุม หรือผูกเชือก แต่ควรเลือกที่ขอบยางไม่รัดแน่นจนเกินไป เพราะจะอึดอัดไม่สบายตัวเวลาใส่
กางเกงอยู่บ้านแบบผูกเชือกคือ สามารถปรับให้แน่นหรือหลวมได้ตามต้องการ และนอกจากจะปรับระดับความแน่นหรือหลวมได้แล้ว ยังสามารถปรับความสั้นยาวได้อีกด้วย นับว่าสะดวก สบายมากทีเดียว
ทีนี้ก็มาเลือกที่เนื้อผ้ากันบ้างว่าแบบไหนที่ใส่สบายและเหมาะสม...
ผ้าฝ้าย เนื้อผ้ามีความนุ่ม ใส่แล้วไม่ร้อน ไม่อับ รับรองว่านุ่มสบายตลอดทั้งวัน
ผ้าร่ม ข้อดีของผ้าร่ม คือสวย พลิ้ว แต่ระบายอากาศได้ไม่ดี ฉะนั้นคนชอบผ้าร่มต้องระวังเรื่องความอับชื้นและผดผื่นเป็นพิเศษ
ผ้าแพร จะทำให้รู้สึกลื่นผิวเหมือนไม่ได้ใส่อะไร เหมาะกับใส่นอนกลางวันอย่างยิ่ง ทั้งสวย ทั้งใส่สบาย แถมใส่แล้วเย็นอีกต่างหาก
ทั้งนี้หากกางเกงอยู่บ้านจะมีกระเป๋าข้างหรือกระเป๋าหลังสักอันก็ดี ไม่น้อย เอาไว้ใส่ของเวลาต้องการใช้ อีกทั้งเมื่อซื้อกางเกงสำหรับใส่อยู่บ้านมาแล้ว ควรซักให้นิ่มก่อนใส่ จะได้ไม่ระคายเคืองผิว ที่สำคัญคือกางเกงใส่อยู่บ้าน ก็ต้องใส่อยู่บ้าน อย่าใส่ออกนอกบ้านเป็นอันขาด เพราะดูไม่เรียบร้อย และไม่ส่งเสริมบุคลิกที่ดีซักเท่าไหร่...
แฮ่ ม...ขึ้นชื่อว่ากางเกงใส่อยู่บ้านก็ต้องใส่เฉพาะอยู่ในบ้านเท่านั้นนะคะ ถ้าจะออกไปข้างนอกก็ควรเปลี่ยนกางเกงให้ดูเรียบร้อยและเหมาะสมจะดีกว่าค่ะ..