
เกาะ ไข่ หลายท่านอาจไม่เคยได้ยิน ซึ่งคนภูเก็ตหลายคนก็ไม่มีใครรู้จักเกาะไข่ ถึงรู้จักก็ไม่ค่อยให้ความสนใจนักเป็นเพราะอยู่ใกล้ และถ้าพูดถึงเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วมักจะพูดถึงเกาะที่อยู่ไกลๆ เช่นเกาะพีพี เกาะสิมิลัน หรือเกาะราชา เป็นส่วนใหญ่
เกาะไข่เดิมเป็นทางผ่านหรือจุดจอดเรือหาปลา จึงรู้จักเฉพาะในหมู่ชาวประมงเท่านั้น แต่ในระยะหลังธุรกิจท่องเที่ยวหลายแห่งหันมาใช้เรือเร็วที่เรียกว่า "สปีดโบ๊ต" เรือเหล่านี้สามารถซอกแซกไปได้ทุกที่ ที่เรือใหญ่เข้าไม่ได้ ระยะหลังจึงมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เรือเหล่านี้ไปถึง
เกาะไข่นี้เป็นของทางราชการ มี อบต.ของจังหวัดเป็นผู้ดูแล และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวค้างแรม ที่นี่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง จะมีเพียงห้องน้ำเล็กๆ ที่สร้างแบบพอเป็นพิธี
พื้นที่ของเกาะมีขนาดประมาณ 2-3 สนามฟุตบอล หรืออาจเล็กกว่า มีชายหาดให้เล่นน้ำได้เพียงซีกหนึ่ง อีกซีกหนึ่งเป็นแนวโขดหินที่มองเห็นน้ำทะเลใสสีฟ้าอ่อน
เกาะไข่อยู่ไม่ห่างจากเกาะภูเก็ตเท่าใดนัก ประมาณ 10 กิโลเมตร จึงสามารถมองเห็นเกาะภูเก็ตได้ชัดเจน จุดเด่นคือมีชายหาดที่ขาวสะอาด ต่างจากชายหาดที่มีชื่อของเกาะภูเก็ต เช่นหาด กะตะ กะรน
บนเกาะไข่ไม่มีต้นใม้ใหญ่ให้บังร่มเงา จะมีแต่ต้นไม้ต้นเตี้ยๆที่เห็นตามชายหาดทั่วไป แต่ก็สามารถใช้เป็นที่หลบแดดได้พอ
สมควร ที่ปีกขวาของเกาะมีมุมให้ดำน้ำดูปลาหลากสีหรือดูปะการัง แต่ถ้าใครชอบเล่นน้ำแล้วก็คงต้องบอกว่าที่นี่มีหาดทรายขาว
มีน้ำทะเลใส และทุกคนสามารถมาสัมผัสได้ ใครที่อยากเห็น หรืออยากสัมผัสเกาะสวรรค์เหมือนในเทพนิยาย เกาะไข่ก็อาจเป็นทางเลือกที่ไม้ต้องไปไกล
ใครไปเที่ยวภูเก็ตและมีเวลาน้อย หากต้องการเห็นหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ขอแนะนำเกาะไข่ จะเที่ยวแบบครึ่งวัน หรือจะนอนอาบแดดเต็มวันแบบฝรั่งก็ได้ ติดต่อสอบถามได้จากบริษัททัวร์ในราคาที่ไม่ค่อยต่างกันมากนัก ราคาประมาณ 700-900 ต่อคน/ครึ่งวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : photoontour.com
ดินแดนแห่งความสุข
...เมื่อเดือนก่อนผมยังงง ๆ อยู่กับชีวิตอยู่เลย หลังจากที่ผมกับคุณ apple ได้พบกับ Resort & Spa ที่หนึ่งที่ใกล้ตัวผมมาก ได้ยินเพียงชื่อแต่ไม่ยักกะติดใจให้เข้าไปค้นหา ช่วงสายของวันหนึ่ง เราได้รับคำเชิญจาก Mangosteen ให้ไปทำความรู้จักกับบรรยากาศที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ฉากแรกของการเยี่ยมเยียนผมก็รู้สึกถึงความพิเศษของที่นี่ การดูแลและเอาใจใส่ในรายละเอียดนับได้ว่าเยี่ยมมาก เจ้าหน้าที่ของที่นี่. แนะนำให้เราฟังว่าชื่อของที่นี่ค่อนข้างแปลก เพราะเจ้าของเป็นคนที่ชอบ มังคุดมาก ดังนั้นอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ จึงเป็นรูปมังคุดเป็นส่วนใหญ่ แม้กระทั่งตัวอาคารที่นี่อยู่บนเนินเขาซึ่งสามารถมองเห็นได้สุดลูกหูลูกตา เลยทีเดียว เป็นบรรยากาศของทะเลและภูเขา ซึ่งมาบรรจบกันที่ปลายตาอย่างลงตัว ด้านหลังเป็นภูเขา ด้านหน้าเป็นทะเล ช่างเข้ากับฮวงจุ้ยของชาวจีนเป็นอย่างยิ่ง ผมกับคุณเปิ้ลได้สัมผัสกับสปาที่ชวนให้ตื่นเต้นจริง ๆ สำหรับสปาแล้ว ผมว่าหลายคนคงมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากได้ประกอบกับวิวทิวทัศน์ที่ลงตัว ผมว่าแค่ได้นอนเล่นเฉย ๆ ก็ไม่อยากจะลุกไปไหนแล้วละครับ |
|

> จากสปามาสู่ห้องพัก
เส้นทางเดินออกแบบที่ไม่ทำลายธรรมชาติ กลมกลืนกับ พื้นที่เดิม นับได้ว่าเป็นเสน่ห์ของที่นี่ครับ
> การได้เดินลัดเลาะชายคาบ้านเหมือนกับเรากำลังไปเยี่ยมเพื่อนบ้านที่บ้านติดกัน
ยังไงยังงั้น เผลอ ๆ
> คุณอาจจะได้ทักทายเพื่อนบ้านที่นอนเล่นอยู่ในเปลสบายอารมณ์ที่หน้าบ้านก็เป็นได้
> ห้องพักที่นี่สามารถมองเห็นบรรยากาศหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรือทะเล
> คุณเชื่อมั้ยห้องน้ำและที่อาบน้ำของที่นี่วิเศษสุดจริง
ๆ แค่คุณปล่อยตัวปล่อยใจให้ไหลลื่นไปกับบรรยากาศ ผมรับรองเวลาที่มีค่าก็แทบเป็นสุญญากาศสำหรับคุณ

บรรยากาศและการต้อนรับที่เป็นกันเอง ประกอบกับความลงตัวที่เป็นธรรมชาติที่ลดหลั่นกันบนเนินเขาเหล่านี้ ที่ที่เป็นดินแดนแห่งความสุขและ ความเป็นส่วนตัว The Mangosteen Resort & Spa ภูเก็ต
- ใส่ใจทุกรายละเอียด
- บรรยากาศเยี่ยม
- เป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัว
- โอบล้อมด้วยธรรมชาติ